Love@Invester: MCOT

ความเห็น เจ้าของบล็อค ตอนแรกสนใจ MCOT อยากจะซื้อไว้ซักตัว เลือกระหว่าง BEC Tero ใจชอบ Mcot ที่มรการจับมือกับ ศูนย์ข่าวเนชั่นทำรายการข่าวให้ พอมาเจอการเปลี่ยน กรรมการองค์กรถึงกับชงัก จะซื้อดีไหมหว่า มันกับมาเข้าเกมส์การเมืองทั้งๆมันกำลังดีขึ้น เริ่มเศร้าใจ แต่อยากซื้อไว้ซักนิดรอราคาลงเมื่อไหร่จะซื้อ เอาไว้ไปประชุมผู้ถือหุ้น

25/4/2555 เมษายน ปรับผังรายการข่าว ต้องถอดเนชั่นออกแน่เลย ถึงเวลานั่นหุ้นจะตกไหมรอดูต่อไป หุหุ

บอกทำวิดีโิวอล 60 ล้าน หาสปอน์เซอร์ได้ 120 ล้าน เช่าฮอร์ทำข่าว 4 ล้าน หาสปอน์เซอร์ได้ 60 ล้าน

จะเชื่อท่านจักพันธ์ดีไหม ดูเหมือนจะโม้ซะมากกว่า มีกระทรวงถือหุ้นใหญ่ แบบนี้งุบงิบ ใต้โต๊ะ อุดหนุนพวกเดียวกันตามธรรมชาติองค์กรของรัฐ อย่างเช่นบริษัทของตระกูลจักรพันธก็รับทำสื่อเกือบทั้งหมดของราขการ

โดยเฉพาะรัฐบาลของไทยรักไทย เฮ้อ แล้วเค้าจะถือหุ้นนี้ดีไหมนะ หนักใจแทนประเทศชาติ

ผลงานแรกเลย จะเปลี่ยนโลโก้ทำไมวะ โลโก้เดิมสวยมากสบายตา มาเป็นสีแดงล้อมเลข 9 บ้าปล่าว โลโก้โคตรขี้เร่เลย บ้านนอกเซาะกราวมากมาย

โลโก้ช่องเก้า ของยุคนาย จักรพันธ ยมจินดา เริ่มปี 2555

เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2555 บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) หรือ MCOT แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯว่า ด้วย คณะกรรมการ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ได้มีการประชุมครั้งที่ 2/2555 ในวันที่ 24 มกราคม2555 เวลา 13.30 น. ณ ห้องประชุม ชั้น 6 อาคารที่ทำการ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) เลขที่ 63/1 ถนนพระราม9 แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ โดยที่ประชุมมีมติ

1.แต่งตั้ง ศาสตราจารย์พิเศษ ธงทอง จันทรางศุ เป็น รองประธานกรรมการ คนที่ 1

2. นายประเสริฐ เกษมโกเมศ กรรมการ ขอลาออกจากการเป็นกรรมการตรวจสอบ ตั้งแต่วันที่ 24 มกราคม 2555 เนื่องจากได้รับการแต่งตั้งเป็นกรรมการกลั่นกรองงานบริหาร บมจ. อสมท และแต่งตั้งกรรมการตรวจสอบ ดังนี้
2.1นายสุธรรม ศิริทิพย์สาคร เป็น กรรมการตรวจสอบ แทน นายประเสริฐ เกษมโกเมศ กรรมการตรวจสอบที่ลาออก
2.2นายสุรชัย โฆษิตเสรีวงค์ เป็น กรรมการตรวจสอบ แทน นายอรรถชัย บุรกรรมโกวิท กรรมการตรวจสอบที่ลาออก เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2554

ดังนั้น คณะกรรมการตรวจสอบ ประกอบด้วย
1)นายเปรมกมลย์ ทินกร ณ อยุธยา   ประธาน
2)นายสุธรรม ศิริทิพย์สาคร   กรรมการ
3)นายสุรชัย โฆษิตเสรีวงค์   กรรมการ
4)ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สำนักตรวจสอบภายใน เลขานุการโดยให้มีขอบเขตหน้าที่และความรับผิดชอบของคณะกรรมการตรวจสอบเป็นเช่นเดิมทุกประการ

3. แต่งตั้ง นายจักรพันธุ์ ยมจินดา รองประธานกรรมการ คนที่ 2 ปฏิบัติหน้าที่รักษาการในตำแหน่งกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ และรักษาการรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สายงานโทรทัศน์ แทน นายสุระ เกนทะนะศิล

คลิป ทิศทาง อสมท.ของนายจักรพันธ์ ยมจินดา http://www.mcot.net/cfcustom/cache_page/340106.html

4. แต่งตั้งคณะกรรมการสรรหา ประกอบด้วย
1) นายสุธรรม ศิริทิพย์สาคร     ประธาน
2) นายเปรมกมลย์ ทินกร ณ อยุธยา     กรรมการ
3) นายประเสริฐ เกษมโกเมศ    กรรมการ
4) พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา   กรรมการ
5) นายสุรชัย   โฆษิตเสรีวงค์      กรรมการ
6) รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สายงานบริหาร เลขานุการ (นายธนะชัย วงศ์ทองศรี)
5. แต่งตั้งคณะกรรมการกำหนดค่าตอบแทน ประกอบด้วย
1) พล.ต.อ. ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา   ประธาน
2) นายบุญธรรม พิกุลศรี   กรรมการ
3) นายสุรชัย โฆษิตเสรีวงค์     กรรมการ
4) เลขานุการบริษัท                           เลขานุการ

ข้อความจาก http://www.oknation.net/blog/netmom/2012/01/24/entry-2

วันที่ 24/1/2555

ผมไม่แปลกใจที่ คุณจักรพันธุ์ ยมจินดา นักสื่อสารมวลชนอาวุโสคนของวงการ จะได้รับการแต่งตั้งให้เป็น กรรมการบริษัท อสมท.จำกัด(มหาชน)

และได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่ง รองประธานกรรมการ มีหน้าที่ดูแลงานด้านการข่าวทั้งหมด

หากใครเคยรู้ประวัติของ คุณจักรพันธุ์มาก่อน ก็คงจะไม่แปลกใจเช่นกัน

เพราะคุณจักรพันธุ์เคยเป็นสมาชิกพรรคไทยรักไทย เคยทำงานให้พรรคนี้ชนิดทุ่มสุดตัว.

กระทั่งครั้งหนึ่งถูกพรรคส่งไป “ชน” องอาจ คล้ามไพบูลย์” ของประชาธิปัตย์มาแล้ว

เมื่อพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล จึงไม่แปลกที่ คุณจักรพันธุ์จะได้มอบให้เข้ามาดูแลองค์กรสื่อแห่งนี้

ตอนที่คุณจักรพันธุ์ ได้รับมอบหมายให้ดูแลงานด้านการข่าว มีหลายคนวิตกกันว่า คุณจักรพันธุ์คงยกเลิกรายการต่าง ๆ ที่ไม่เชียร์รัฐบาลชุดนี้

มีการมองไปที่รายการ เช้าข่าวข้น และ ข่าวข้นคนข่าว ที่ค่ายเนชั่น ร่วมผลิตรายการกับ อสมท.ว่าอาจถูกเขี่ยจากผังรายการของ อสมท. ตามแผนการยกเครื่องรายการข่าวที่คุณจักรพันธุ์วางไว้ว่า จะปรับโครงสร้างใหม่หมดในวันเกิด อสมท.เดือนเมษายนนี้

แต่ล่าสุด คุณจักรพันธุ์ก็ยืนยันผ่านสื่อมวลชนว่า จะไม่ปรับผังรายการก่อนเดือนมิถุนายน นั่นก็คือ รายการ เช้าข่าวข้น และ ข่าวข้นคนข่าว จะคงมีอยู่ต่อไปจนกว่าจะครบสัญญา

และที่น่าชื่นชมอีกเรื่องหนึ่งก็คือ คุณจักรพันธุ์ประกาศชัดเจนว่า ระหว่างอยู่ในตำแหน่งจะไม่เปิดโอกาสให้ บริษัท แมกซิม่า สตูดิโอ จำกัด ที่เขาเคยเป็น ประธานบริหารฯ เสนองานมาที่ อสมท.อย่างเด็ดขาด

(ปัจจุบัน แมกซิม่า ผลิตรายการข่าวช่วงให้แก่ สถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง ๕ และคุณจักรพันธุ์ ลาออกจากตำแหน่งประธานแมกซิม่า ก่อนมาดำรงตำแหน่ง รองประธาน บอร์ด อสมท.)

การแสดงออกอย่างชัดเจนของคุณจักรพันธุ์ครั้งนี้ ขอได้รับความขอบคุณจากผมนะครับ

เพราะการแสดงออกครั้งนี้ แสดงให้เห็นเจตนาถึงความบริสุทธิ์ใจของคุณจักรพันธุ์ ที่จะไม่แสวงหาผลประโยชน์ให้ตัวเองและญาติพี่น้อง

และไม่ “รังแก” สื่อด้วยกัน

ที่ผ่านมา ผมเห็นนักสื่อสารมวลชนหลายคนที่ได้รับการแต่งตั้งให้มีตำแหน่งสำคัญ ๆ ในทางการเมืองหรือมีโอกาสควบคุมสื่อของรัฐ มักจะแสดงอาการ “กร่าง” ออกมาให้เห็น

บางคนเคยเป็นนักข่าวหนังสือพิมพ์ เติบโตเป็นเจ้าของหนังสือ พอได้เป็นรัฐมนตรีที่ได้รับมอบหมายให้ดูแลสื่อก็กร่างคับบ้านคับเมือง พอตกกระป๋องคือหมดอำนาจ ก็ถูกเพื่อน ๆ หันหลังให้(ฮา)

คำประกาศของคุณจักรพันธุ์ ที่บอกว่า จะไม่ให้บริษัทแมกซิม่าของน้องชายคือ คุณวีรวัฒน์ ยมจินดา เข้ามาเสนองานที่ อสมท.ทำให้ผมนึกถึง คุณสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ที่เคยเป็นรัฐมนตรีคมนาคม แล้วประกาศห้ามบริษัท ประยูรวิศว์ จำกัด ของบิดา เข้าร่วมประมูลงานจากกระทรวงคมนาคม ขึ้นมาทันที

นี่คือการแสดงออกของคนที่ “เป็นมวย” อย่างยิ่ง

และแสดงว่า คุณจักรพันธุ์ ยมจินดา ทราบดีว่า ตำแหน่งที่มาจากการเมืองนั้นมักไม่ยั่งยืน เกิดและดับเมื่อไหร่ก็ได้

การแสดงความมีน้ำใจต่อเพื่อนสื่อด้วยกัน จึงเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง

อนาคตคุณยังไปได้อีกไกล หากทำลายมิตรที่เป็นมวลชนเสียตั้งแต่วันนี้ ก็เท่ากับทำลายอนาคตตัวเอง

คำประกาศของคุณจักรพันธุ์ในวันนี้ แสดงว่า เข้าใจคำว่ากล่าวที่ว่า “นกไม่มีขน คนไม่มีเพื่อน ขึ้นไปสู่ที่สูงไม่ได้” เป็นอย่างดี

และไหน ๆ ก็เขียนถึงคุณจักรพันธุ์แล้ว อยากเตือนว่า อย่าแตะรายการคุยข่าวต่าง ๆ ที่คนของ อสมท.ยึดครองคลื่นต่าง ๆ(ตามหน้าที่) อยู่นะครับ

หลายคนหงายท้องเพราะมัวระวังศึกนอก จนลืมศีกในมาแล้ว (ฮา)

ป.ล.ใครใน อสมท.ไม่อยู่ในลักษณะที่ผมเขียนเตือนคุณจักรพันธุ์ ก็อย่าเดือดเนื้อร้อนใจ ทำหน้าที่ไปตามปกติครับ

ไม่ต้องถามไถ่กันให้วุ่นล่ะว่า ภาณุมาศ ทักษณา มันเป็นใครก้นวะล่ะ - ฮา

http://www.isranews.org/Investigative/71-Investigative/5786--300-.html

หน้าม่านคุณภาพ!เปิดขุมทรัพย์ บ.คนใกล้ชิด“จักรพันธุ์ ยมจินดา”ก่อนถึงเก้าอี้ใหญ่ อสมท. โยกหุ้นไป-กลับ 4 ตลบ ฟันเม็ดเงินโฆษณาหน่วยงานรัฐ 27 แห่งเกือบ 300 ล้าน ยุค“ไทยรักไทย”งานชุก “โมเดิร์นไนน์ –สนามเป้า”พรึ่บ!

การรั้งเก้าอี้กรรมการฝ่ายสื่อสารมวลชนและพัฒนาองค์กร ของบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) รองประธานกรรมการคนที่สอง รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานโทรทัศน์ และรักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.อสมท ของนายจักรพันธุ์ ยมจินดา อดีตผู้ประกาศข่าว (อดีต ส.ส.ระยอง,ผู้สมัครบัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ปี 2544 อดีตบอร์ดการท่าเรือแห่งประเทศไทยยุคไทยรักไทยปี 2548 ) ในยุคพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาลเป็นเรื่องท้าทายอย่างมาก

ท้าทายในเชิงบริหารและท้าทายในเชิงจริยธรรม

มิใช่เพราะนายจักรพันธุ์ สำแดงบทบาทในเชิงบริหารด้วยความพยายามปรับเปลี่ยนผังรายการใน อสมท.ประการเดียว หากทว่าภาพลักษณ์ติดตัวเนื่องจากเครือญาติเป็นเจ้าของ บริษัท แมคซิม่า สตูดิโอ จำกัด (นายจักรพันธุเคยเป็นผู้ดำเนินรายการ) กำลังถูกจับตาด้วยเช่นกัน

สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ตรวจสอบพบว่า บริษัท แมคซิม่า สตูดิโอ จำกัด จดทะเบียนวันที่ 13 กรกฎาคม 2543 ทุนเริ่มแรก 1 ล้านบาท ประกอบธุรกิจประชาสัมพันธ์ ที่ตั้งเลขที่ 3/608 ถนนเทศบาลนิมิตเหนือ แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพฯ (ปัจจุบันเลขที่ 167/57 หมู่ที่ 1 หมู่บ้านบ้านหนองน้ำแดง ตำบลหนองน้ำแดง อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา) ผู้ถือหุ้นใหญ่ในช่วงก่อตั้ง

1.นายสามิต จึงเสถียรทรัพย์ 3,332 หุ้น อายุ 23 ปี อาชีพรับจ้าง อยู่บ้านเลขที่ 330 ซอยสมเด็จพระเจ้าตากสิน8 ถนนสมเด็จพระเจ้าตากสิน แขวงบางยี่เรือ ธนบุรี กรุงเทพฯ

2.น.ส.ปวีณา วิจัยรัตนศิริ 1,000 หุ้น อายุ 26 ปี อาชีพรับจ้าง อยู่บ้านเลขที่ 7/8 ถนนปราบไตรจักร ต.ในเมือง อ.เมือง จ.พิษณุโลก

3.นายพิเศษ พานิชกุล 5,664 หุ้น อายุ 29 ปี อาชีพรับจ้าง อยู่บ้านเลขที่ 52/502 ซอยจรัลสนิทวงศ์ 96/1 ถนนจรัลสนิทวงศ์ เขตบาพลัด กรุงเทพฯ

วันที่ 23 ธันวาคม 2545 นายวีรวัฒน์ ยมจินดา น้องชายนายจักรพันธุ์ ยมจินดา ถือหุ้นใหญ่ 9,993 หุ้น จากทั้งหมด 10,000 หุ้น หุ้นละ 100 บาท

วันที่ 31 มีนาคม 2547 เพิ่มทุนเป็น 5 ล้านบาท นายวีรวัฒน์ ยมจินดา ถือหุ้นใหญ่ 49,999 หุ้น จากทั้งหมด 50,000 หุ้น หุ้นละ 100 บาท

วันที่ 25 มีนาคม 2551 นายวีรวัฒน์ โอนหุ้นให้ น.ส.เกษศิณีย์ รัตนภรณ์ อาชีพรับจ้าง ถือหุ้นใหญ่ 49,999 หุ้น

วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2552 น.ส.เกษศิณีย์ รัตนภรณ์ โอนหุ้นกลับคืนมาให้นายวีรวัฒน์ อีกครั้ง

กระทั่งวันที่ 4 ธันวาคม 2554 นายวีรวัฒน์ โอนหุ้นให้ น.ส.วิรยา ยมจินดา ทั้งหมด

สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ตรวจสอบพบว่า นับตั้งแต่ปีงบประมาณ 2545 เป็นต้นมาจนถึงพฤศจิกายน 2554 (ก่อนนายจักรพันธุ์รับตำแหน่งใน อสมท.)

บริษัท แมคซิม่า สตูดิโอ จำกัด ได้รับว่าจ้างหน่วยงานรัฐ 27 แห่ง รวม 88 ครั้ง (สัญญา) วงเงิน 296,654,727 บาท (ดูตาราง)

งานล่าสุดคือ วันที่ 27 ก.ย. 2554 โครงการประกวดวงดนตรี นักเรียน “สระแก้ว เดอะ แบนด์ไอดอล 2011” (อบจ.สระแก้ว) 2 ล้านบาท และ 16 พ.ย. 2554 จ้างแสดงงานโอท็อป (อบจ.สกลนคร) 6,500,000 บาท

หน่วยงานหลักคือ กระทรวงการคลัง (ธนาคารออมสิน) , กระทรวงพลังงาน ,ปตท. ,กระทรวงพาณิชย์ กรมโรงงานอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม

น่าสังเกตว่า การถือหุ้น บริษัท แมคซิม่า จำกัด ของนายวีรวัฒน์ ยมจินดา เมื่อวันที่ วันที่ 23 ธันวาคม 2545 อยู่ในช่วงพรรคไทยรักไทยเป็นรัฐบาลและได้รับว่าจ้างในยุคพรรคไทยรักไทยเป็นรัฐบาลจำนวนมาก

และยังพบว่าประชาสัมพันธ์ผ่านทีวี ช่อง 9 ,โมเดิร์นไนน์ และ ททบ. 5 ผ่านรายการ “สนามเป้า เล่าข่าว”(นายจักรพันธุ์ ยมจินดา เป็นผู้ดำเนินรายการ) หลายครั้งด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้ บริษัท แมคซิม่า สตูดิโอ จำกัด แจ้งผลประกอบการต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ระบุว่า ปี 2552 รายได้ 231,680,368 บาท กำไรสุทธิ 8,481,764 บาท ปี 2553 รายได้ 202,067,806 บาท ขาดทุนสุทธิ 502,299 บาท สินทรัพย์ 177,058,365 บาท (ดูตาราง)

ตำแหน่ง“สาธารณะ”ของนายจักรพันธุ์ถูกท้าทายอย่างมากนับจากนี้

ผู้ถือหุ้นบริษัท แมคซิม่า จำกัด