วันอังคารที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2555

วันที่ 4/6/55 กับพี่เปี๊ยก



Nattawat Onratn 4/6/55

ช่วงการลงทุนใตลาดหุ้น โดยเฉพาะในตลาดขาลง

สติ สำคัญที่สุด ที่ผ่านมา 2-3 สัปดาห์ จะเป็นบทเรียนสำคัญ

ที่ท่านต้องจดเอาไว้ การขาดสติ ทำให้ เราขาดทุนได้

การจะควบคุม สติ ให้ได้ ท่านต้องไม่ใส่เงิน มากเกินไป

ท่านควรจะ วางกลยุทธ์ในการเล่นให้ถูก คือ

ถ้าเราเลือกจะเป็นฝ่ายซื้อ พอรับหุ้นได้ในราคาถูก

เมื่อ Rebound ท่านจำเป็นต้องขาย

ถ้าท่านไม่ขาย คนส่วนใหญ่ ในตลาดก็ขาย

การ ทำ Short หรือ SBL ถ้าทำไม่ ถูกตัว ไม่ถูกจังหวะ

ก็อาจจะ ขาดทุนได้ เช่นกัน

การค่อยๆ ทดสอบ และ ตามหาจุดต่ำสุด ว่าอยู่ตรงไหน

เป็นสิ่งที่ ท่านควรทำ เมื่อเจอแล้ว จึงค่อยใส่เงินส่วนใหญ่ลงไป

ท่าน อย่ากลัวเกิน เหตุ หุ้นมีลง ก็ ต้องมีขึ้น

พรุ่งนี้(อังคาร 5/6/55) 1100 จะเป็น จุดรับ ที่สำคัญ ถ้าไม่หลุด

แปลว่า จุดต่ำสุด ได้ ผ่านไปแล้ว


ถ้าหลุด ก็ แปลว่า เราจะต้องตามหา จุดต่ำสุดของรอบ ต่อไป

เราไม่ต้องตั้ง Bid ให้รายใหญ่ เขาทำให้เราดู เราจะนั่งดู ในวันพรุ่งนี้

ท่าน ที่เพิ่งเคย อ่าน ความเห็นของผม อย่าเพิ่งตกใจ เพราะผมจะหาจังหวะซื้อหุ้นเข้าพอร์ต ตอนลง

ผมไม่เคยกลัว ขาลงพอตลาดหุ้น ขึ้นมาระดับหนึ่งแล้ว ผมจะค่อยๆ ขาย

ดังนั้น ตอนตลาด มีแต่ ข่าวร้าย ผมจะใช้สมาธิ หาจังหวะเข้าซื้อ มากกว่า เพราะถือว่า การขาย ได้จบไปแล้ว


จุดแต่ละจุด ที่เป็นแนวรับ ผมจะเฝ้าดู ถ้าใช้ได้ ผมจะออก ราคาแนวรับให้

ผมจะไม่คาดการณ์ว่า SET จะลงไปแค่ไหน เพราะ ผมคิดว่า ไม่จำเป็น

พี่เปี๊ยกครับ ถ้าเราติดหุ้นอยู่แล้วขาดทุนค่อนข้างมาก แต่ราคาหุ้นมีขึ้นๆลงๆ เราควรขายไปส่วนหนึ่งในราคาที่สูงแล้วรับกลับในราคาที่ต่ำในจำนวนหุ้นที่เท่ากับตอนขาย. ดีมั้ยครับ เพราะถ้ารอให้กลับไปสูงเหมือนก่อน ก็ยากเหลือเกิน มันจะช่วยให้เรามีกำไรเพื่อทดแทนการขาดทุน ผมคิดแบบนี้มันถูกมั้ยครับ รบกวนชี้แนะ

ตอบว่า ถ้าทำได้ ก็จะดีมากคับ จะได้ไม่อึดอัด

ประมาณที่1,100 เข้าเก็บไว้บางส่วน เเล้วรอดูว่าจะไปยังต่อ ถ้าลงต่อก็รอเเนวรับใหม่เเล้วเข้าซื้อเพิ่มอย่างนี้ถูกต้องมั้ยตอบว่า ถูกคับ เพียงแต่ว่า รับได้ของถูก แล้วมีกำไร ให้ขายออกมาก่อนคับ ทำไปเรื่อยๆ จนมั่นใจว่า ต่ำสุดแล้ว ค่อยเข้าเต็มพอร์ต คับ

ในสถานการณืแบบนี้การเลือกกลุ่ม จำเป็นมากน้อยแค่ไหน ทำไมมีแต่คนบอกให้เลี่ยงพลังงาน แต่ส่วนตัวคิดว่าทยอยเก็บได้ แต่เริ่มหวั่นไหวค่ะ กลัวจะเก็บอยู่คนเดียว

ตอบว่า ซื้อหุ้น ตอนที่ไม่มีคนสนใจ ถูกแล้วคับ เพียงแต่ว่า การทยอยซื้อสะสม ต้องมีหลักบ้าง อย่าซื้อไปเรื่อยๆ

อย่าตั้งตน อยู่ในความประมาท แค่นั้นก็พอ

หุ้นตัวไหน ที่เราคุ้นเคย หรือ เล่นอยู่แล้ว ก็ ตัวนั้นแหละคับ เป็นเป้าหมาย ในรอบนี้ ไม่ต้องไปหาที่ไหน

Nattawat Onratn ความไม่ประมาท หมายถึง การมีสติ ระลึกได้อยู่ว่า ปัจจุบันตนเองกระทำอะไรอยู่ ทำแล้วจะเกิดผลอย่างไร ทำในสิ่งที่ควรกระทำหรือไม่ รวมทั้งความรอบคอบ ระมัดระวังในสิ่งที่กระทำอยู่ให้เป็นไปในทางที่ควรอยู่เสมอ

ซึ่งตรงกันข้ามกับความประมาท คือ ความชะล่าใจ การขาดความระมัดระวัง การไม่ทำความดีติดต่อกัน จึงมักกล่าวกันว่า “ความประมาทคือหนทางแห่งความตาย”

พระพุทธเจ้าทรงเห็นภัยแห่งความประมาทนี้ จึงได้ชี้ทางอันเป็นมงคลชีวิตที่สำคัญ คือ ความไม่ประมาทอันทำให้บุคคลรู้และระลึกได้ ถึงสิ่งที่ควรกระทำของตน เพื่อความสุขแห่งตนดังที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ ในพระไตรปิฎก ขุททกนิกาย เล่ม ๒๕ หน้า ๑๖ ว่า…

“ความไม่ประมาทเป็นทางเครื่องถึงอมตนิพพาน

ความประมาทเป็นทางแห่งความตาย....

ชนเหล่าใดประมาทแล้ว ย่อมเป็นเหมือนคนตายแล้ว

บัณฑิตทั้งหลาย ตั้งอยู่ในความไม่ประมาท ... หาธรรมอื่นยิ่งกว่ามิได้

ยศย่อมเจริญแก่บุคคลผู้มีความหมั่น มีสติมีการงานที่สะอาด

ผู้ใคร่ครวญแล้วจึงทำ ผู้สร้างระวัง ผู้สำรวมระวัง ผู้เป็นอยู่โดยธรรม และผู้ไม่ประมาท”

Sir John Templeton ปรมาจารย์แห่ง contrarian บอกว่า นักลงทุนควรจะเป็น contrarian ก็ต่อเมื่อตลาดมองโลกแง่ร้ายเกินไป จะเรียกว่าเป็นช่วงที่คนในตลาดกลัว “สุดขีด” ก็ได้ ที่สำคัญการจะเข้าไปเก็บของถูก ท่านอาจจะรอให้พวกที่เรียกว่า contrarian ตัวปลอม ตายหมดก่อนก็ได้ จึงค่อยลุกขึ้นมาเป็น contrarian ตัวจริง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น